สถานที่ท่องเที่ยวในไทยยังมีอีกมากมายที่คุณไม่รู้ ติดตามข้อมูลข่าวสารสถานที่ท่องเที่ยวกับเราที่นี่ แล้วคุณจะรู้ว่าเมืองไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวดี ๆ อีกมากมายที่คุณยังไม่ได้ไป

เที่ยว 2 วัน 1 คืนใน สถานที่ท่องเที่ยว บนอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ตอนที่2

ในตอนที่แล้วผมเล่าถึง สถานที่ท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติน้ำหนาวซึ่งเป็นการเดินทางจากทางหลวงหมายเลข 12 ซึ่งระหว่างทางมีสถานที่ท่องเที่ยวให้เราแวะพักผ่อนหย่อนใจและท่องเที่ยวผจญภัยอยู่หลายแห่ง เช่น น้ำตกเหวทราย น้ำตกทรายทอง จุดชมวิวทิวทัศน์ภูค้อ และถ้ำผาหงษ์เป็นต้น

หลังจากตื่นนอนเช้าวันนี้หากคุณอยากชมรถไปที่จุดชมวิวภูค้อ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ เพียง 4 กิโลเมตร แล้วจึงกลับมากินมื้อเช้าที่อุทยานฯ ได้

สายๆ ไปท่องเที่ยวต่อที่สวนสนดงแปก ซึ่งเส้นทางไปสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นเส้นทางเดินเท้าระยะทาง 5 กิโลเมตร คุณควรเตรียมข้าวกล่องและน้ำดื่มไปด้วยเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศไปกินข้าวกลางป่าปิกนิกท่ามกลางธรรมชาติ จุดเริ่มต้นเดินเท้าอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 49 เป็นเส้นทางสบายๆ เดินไม่ยากเพื่อที่จะเข้าไปชมป่าสนสองใบที่ขึ้นอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ ซึ่งแทบจะไม่มีต้นไม้อื่นขึ้นแซมอยู่เลย คล้ายกับสวนสนภูกุ่มข้าว เพียงแต่ต้นสนที่นี่จะเป็นคนละชนิดกัน นอกจากนี้ในเส้นทางเดินเท้ายังผ่านผืนป่าที่หลากหลายทั้งป่าดิบชื้น และป่าดิบเขา ระหว่างทางยังอาจพบเห็นสัตว์ป่าและนกอีกหลายชนิด จึงเหมาะเป็นเส้นทางดูนกได้อีกด้วย ช่วงฤดูร้อนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม เป็นช่วงเวลาที่กล้วยไม้ป่าหลายชนิดออกดอกให้ชมอย่างสวยงามด้วย

สนสองใบมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pinus merkusii Jungh.&de Vriese จัดอยู่ในวงศ์ PINACEAE และยังมีชื่อเรียกอื่นๆ อีกเช่น เกี๊ยเปลือกดำ (ภาคเหนือ) เกี๊ยเปลือกหนา (เชียงใหม่) จ๋วง (ภาคเหนือและภาคตะวันออก-เฉียงเหนือ) เชียงเซา (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) โช (กะเหรี่ยง-เชียงใหม่) ไต้ (อุบลราชธานี และ-ศรีสะเกษ) แปก (ฉาน-แม่ฮ่องสอนและเลย) สนเขา สนหางม้า (ภาคกลาง) สะรอล (เขมร-สุรินทร์)

สถานที่ท่องเที่ยว น้ำตก เพชรบูรณ์
สนสองใบเป็นไม้ต้น มีความสูงเฉลี่ย 30-40 เมตร ลำต้นตรง ต้นที่มีอายุน้อยจะมีเรือนยอดรูปเจดีย์ แล้วแผ่กว้างเป็นพุ่มกลมเมื่ออายุมากขึ้น มีเปลือกหนาสีน้ำตาลเข้มเกือบดำแตกเป็นร่องลึกตามยาว ลักษณะใบเป็นรูปเข็มยาว 15-25 เซนติเมตร ออกตามปลายกิ่ง ติดเป็นกลุ่มๆ ละ 2 ใบ ออกดอกช่วงเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม โดยจะออกดอกเป็นช่อแยกเพศอยู่บนต้นเดียวกัน ช่อดอกตัวผู้ออกเป็นกระจุกที่ปลายกิ่งทั่วเรือนยอด ช่อตัวเมียมีสีม่วง ออกครั้งละ 1-3 ช่อ ตามปลายกิ่งใหญ่ที่อยู่ในระดับสูงๆ และมีขนาดใหญ่กว่าดอกตัวผู้ ลักษณะของผลจะออกรวมกันเป็นกลุ่ม เรียกว่า cone รูปทรงกระบอก กว้างประมาณ 5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร มีเมล็ดขนาดเล็กจำนวนมาก ถิ่นกำเนิดของสนสองใบอยู่ในเอเชีย ชอบขึ้นอยู่บนภูเขา ที่มีความสูงจากระดับทะเลตั้งแต่ 50-1,300 เมตร

ส่วนสนสามใบ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pinus kesiy Royie ex Gordon จัดอยู่ในวงศ์เดียวกันกับสนสองใบ และมีชื่อเรียกตามท้องถิ่นว่า เกี๊ยเปลือกแดง, เกี๊ยเปลือกบาง, จ๋วง, เซี๊ยงบั้ง, แปก และสนเขา เป็นไม้ต้นความสูงเฉลี่ยประมาณ 10-30 เมตร ลำต้นตรง เรือนยอดเป็นพุ่มกลม เปลือกมีสีน้ำตาลอมชมพูอ่อน ล่อนออกเป็นสะเกดรูปตาข่ายและมักมียางสีเหลืองซึมออกมาตามรอยแยก ลักษณะใบรูปเข็มจะออกเวียนสลับถี่ตามปลายกิ่งติดเป็นกลุ่มๆ ละ 3 ใบ ออกดอกบนต้นเดียวกัน แต่ช่อดอกตัวผู้จะมีสีเหลืองแบบหางกระรอก มีผลเป็นกลุ่มเรียกว่า cone รูปไข่ สีน้ำตาล สนสามใบนี้มีถิ่นกำเนิดมาจากพม่า และชอบขึ้นอยู่เป็นกลุ่มบนเนินเขาที่ความสูงตั้งแต่ 1,000-1,600 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง

หลังจากชื่นชมควาสมงามของสนสองใบในสวนสนดงแปกแล้ว เดินเท้ากลับออกมาช่วงบ่ายนิดๆ ค่อยขับรถไปท่องเที่ยวเขาค้อกันต่อ หรือจะไปที่สถานที่ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าในจังหวัดพิษณุโลกก็ได้ ส่วนใครที่นอนค้างแรมที่น้ำหนาวอีกคืน ช่วงบ่ายกลับไปพักผ่อนที่อุทยานฯ ในวันรุ่งขึ้นจึงเดินทางไปเที่ยวชมน้ำตกเหวตาดหมอก น้ำตกตาดใหญ่ และน้ำตกตาดพรานบากันต่อ

ใกล้ ๆ กันนี้ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีก 3 แห่งคือน้ำตกเหวตาดหมอก น้ำตกตาดใหญ่ และน้ำตกตาดพรานบา ทั้ง 3 น้ำตกนี้อยู่ในเส้นทางเดียวกับทางไปอำเภอน้ำหนาว หากคุณอยู่ที่ที่ทำการอุทยานฯ ให้ขับรถกลับไปทางจังหวัดขอนแก่น จากนั้นจะพบสามแยกเลี้ยวซ้ายไปอำเภอน้ำหนาว เลี้ยวซ้ายตามทางลาดยางไปประมาณ 6 กิโลเมตร จะถึงบ้านโคกมน เลี้ยวขวาเข้าไปทางวัดโคกมนประมาณ 300 เมตร จอดรถที่ลานวัดแล้วเดินเข้าไปชมวิวน้ำตกเหวตาดหมอกชั้นบนได้ น้ำตกเหวตาดหมอกเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สวยงามไม่แพ้น้ำตกเหวทราย สายน้ำไหลจากลำธารที่ดูธรรมดาไปตกลงหน้าผากว้างและสูงชัน มีจุดชมวิวน้ำตกที่ห่างออกไปอีก 500 เมตร แต่เส้นทางยังไม่เปิดเที่ยวเป็นทางการ จึงต้องให้ชาวบ้านพาเข้าไปชม

สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ
ขับเลยจากน้ำตกเหวตาดหมอกไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร จะมีทางแยกซ้ายมือตามป้ายบอกทางไปชมน้ำตกตาดใหญ่ จากทางแยกเป็นทางลูกรังที่เหมาะสำหรับรถปิ๊กอัพหรือขับเคลื่อนสี่ล้อ ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร ถึงลานจอดรถแล้วลงเดินอีกเพียงนิดเดียว ก็ได้ชมวิวน้ำตกตาดใหญ่แล้ว นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นน้ำตกน่าเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของอำเภอน้ำหนาว เป็นทางลูกรังเข้าไป 3 กิโลเมตร ถึงลานจอดรถแล้วเดินเท้าไปเพียง 150 เมตร จะถึงน้ำตกตาดพรานบา ซึ่งสายน้ำจะไหลผ่านลำธารหินลดหลั่นเป็นชั้นๆ อย่างสวยงาม

ทั้ง 3 น้ำตกนี้ เหมาะมาเที่ยวชมเฉพาะช่วงฤดูฝนเท่านั้น ซึ่งเป็นช่วงที่สวยที่สุด เพราะช่วงอื่นๆ น้ำน้อยวิวน้ำตกไม่สวย


ถ้าคุณยังมีเวลาเหลือ จะไปเที่ยวต่อที่สถานที่ท่องเที่ยวถ้ำใหญ่น้ำหนาวตั้งอยู่ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ นน.6 (ถ้ำใหญ่น้ำหนาว) ถ้าขนาดใหญ่ความลึก 4.5 กิโลเมตร ที่มีความงดงามวิจิตรพิศดารของหินงอกหินย้อย และมีน้ำไหลรินออกมาจากปากถ้ำ จึงเรียกอีกชื่อว่า ภูน้ำริน ภายในถ้ำเป็นถิ่นอาศัยของค้างคาวหายากหลายชนิด เช่น ค้างคาวมงกุฏมาร์แชล ค้างคาวหูหนูยักษ์ ค้างคาวท้องน้ำตาลใหญ่ เป็นต้น

จบการเดินทางท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวแบบครบทุกรส ขากลับเลือกกลับผ่านทางจังหวัดขอนแก่น หรือผ่านทางจังหวัดชัยภูมิก็ได้ครับ

4 ความคิดเห็น:

ใช้เวลาเที่ยวไม่มากแต่ได้เยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆ

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆมีประโยชน์ที่ทำให้เพื่อนๆได้เข้ามาอ่านครับหวังว่าจะได้นำไปใช้ประโยชน์อย่างแท้จริง

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆที่มีไว้ศึกษาการท่องเที่ยวของประเทศไทย
ประเทศไทยยังไมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาบ

ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

แสดงความคิดเห็น

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More