แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเพชรบูรณ์มาหลายแห่งแล้ว แต่แนะนำยังไงก็ไม่หมดเสียที เพราะจังหวัดนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายเหลือเกิน
ทางหลวงหมายเลข 12 นับว่าเป็นเส้นทางเชื่อมภาคอีสานและภาคเหนือเข้าด้วยกัน และจะมีสักกี่ถนนที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เช่นทางหลวงทางหลวงสายนี้ จากขอนแก่น ผ่านชุมแพ ไปหล่มสัก เข้าสู่จังหวัดพิษณุโลกมีอุทยานยานที่น่าท่องเที่ยวอยู่แห่งหนึ่ง เป็นการท่องเที่ยวในหน้าหนาวที่มีคนนิยมมาท่องเที่ยว เพราะมาที่นี่ไม่ได้หนาวเพียงแค่บนดอยสูงแต่ว่ากันว่าในฤดูหนาวนั้นอุทยานแห่งนี้จะหนาวตั้งแต่ยอดดอยสูงจนถึงในน้ำทีเดียว สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ก็คืออุทยานแห่งชาติน้ำหนาวนั่นเอง
อุทยานแห่งชาติน้ำหนาวมีพื้นที่ทั้งหมด 603,750 ไร่ หรือประมาณ 966 ตารางกิโลเมตร ได้รับการจัดตั้งแห่งชาติลำดับที่ 5 ของประเทศไทย ภูมิประเทศของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นแนวเทือกเขาที่กั้นระหว่างภาคอีสานและภาคเหนือ พื้นที่ส่วนหนึ่งของเทือกเขานี้ยังเป็นอุทธยานแห่งชาติตาดหมอก และเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูเขาเขียว ในจังหวัดชัยภูมิด้วย โดยยอดเขาสูงสุดของอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวคือยอดภูผาจิต หรือเรียกว่าภูด่านอีป้อง มีความสูง 1,271 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง
สถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวมีคงามหลากหลายของป่าไม้ ทั้งป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา ป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ และที่พิเศษคือป่าสนเขา ซึ่งมีทั้งสนสองใบ และสนสามใบ เมื่อสิ้นสุดฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูร้อนจะมีการผลัดใบของป่าทำให้เกิดเป็นปรากฎการณ์ป่าเปลี่ยนสีที่งดงามมาก ความพิเศษที่สุด อีกอย่างหนึ่งของอุทธยานแห่งนี้ และทางหลวงหมายเลข 12 นี้เองที่ตัดผ่านป่าเขาแห่งนี้ทำให้การเดินทางสะดวกสะบายและได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ ป่าเขาลำเนาไพรอย่างเพลิดเพลินขณะเดินทาง
ถ้าคุณเดินทางมาจากจังหวัดขอนแก่นสามารถแวะท่องเที่ยวชมน้ำตกเหวทรายก่อน ซึ่งจะอยู่บริเวณทางหลวงหมายเลข 12 บริเวณกิโลเมตรที่ 67 จอดรถไว้แล้วเดินทางเข้าไปเป็นระยะทางเพียง 1 กิโลเมตร น้ำตกเหวทรายเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีความสูงประมาณ 20 เมตร ต้นน้ำเิกิดจากลำห้วยสนามทราย เป็นลำธารธรรมชาติที่แบ่งเขตระหว่างอำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ และอำเภอคอนสารจังหวัดชัยภูมิ ใต้น้ำตกมีแหล่งลงเล่นน้ำได้ และชะง่อนหินเป็นเพลิงเดินเข้าไปหลบฝนได้ แต่หากคุณมาชมวิิวในน้ำตกช่วงฤดูฝนจะมีน้ำมากซึ่งเป็นช่วงที่สวยที่สุด
ตอนบ่ายอยากชวนคุณไปขับรถท่องเที่ยวที่สวนสนภูกุ่มข้าว ซึ่งก็ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 12 เช่นกัน อยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 53 แต่จะต้องเข้าทางแยกไปตามถนนลูกรังอีกประมาณ 15 กิโลเมตร ชื่อของสถานที่ท่องเที่ยวภูกุ่มข้าว ถูกเรียกตามเนินเขาเตี้ย ๆ ลูกหนึ่งที่ชื่อว่า ภูกุ่มข้าว มีความสูงประมาณ 880 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีอาณาบริเวณกว่า 10 ตารางกิโลเมตร บนเขาลูกนี้เป็นป่าสนเกือบทั้งหมด แทบจะไม่มีต้นไม้อื่น ๆ เลย มีเพียงต้นหญ้าคา หญ้าเพ็กวึ่งเป็นพืชพื้นล่างปกคลุม ป่าสนที่ภูกุ่มข้าวนี้เป็นสนสามใบ และมีลำต้นสูงใหญ่ ตั้งแต่ 30-40 เมตร เมื่อขึ้นไปยืนอยู่บนยอดภูกุ่มข้าวจะมองเห็นทิวทัศน์เรือนยอดต้นสนเป็นทิวยาวติด ๆ กันเป็นพืดทั้ง 4 ทิศ ในวันที่อากาศแจ่มใสจะมองเห็นทิวทัศน์ได้ไกลถึงอ่างเก็บน้ำเขื่อนจุฬาภรณ์ ในจังหวัดชัยูภูมิซึ่งอยู่ทางทิศใต้อย่างชัดเจน
เริ่มบ่ายแก่ ๆ ออกเดินทางต่อขับรถไปแวะที่ภูค้อซึ่งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 46 ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีทิวทัศน์สวยงามมองเห็นผืนป่าดงสนภูกุ่มข้าว และยอดภูผาจิตได้อย่างงดงาม ในภูค้อจะมีเส้นทางประมาณ 4 กิโลเมตรสำหรับนักท่องเที่ยวได้เดินศึกษาธรรมชาติจากภูค้อไปยังที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว นอกจากนี้ในตอนเช้าจุดนี้ยังนิยมใช้เป็นจุดชมวิวพระอาทิตขึ้นอีกด้วย
ก่อนเข้าหาที่พักปิดท้ายวันแรกด้วยการชมวิพระอาทิตย์ตกที่จุดชมทิวทัศน์ถ้ำผาหงษ์ อยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 39 จอดริมทางแล้วเดินเท้าเข้าไปสถานที่นี้อีกเพียง 300 เมตร จะถึงถ้าผาหงษ์ แม้ว่าเป็นถ้าขนาดเล็กที่ภายในเป็นซอกหลืบแคบ ๆ แต่มีหินงอกและหินย้อยที่สวยงาม และยังเป็นที่อาศัยของค้างคาวหลายชนิด โดยเฉพาะค้างคาวมงกุฏมาร์แชล ซึ่งหาชมได้ค่อนข้างยากและใกล้สูญพันธุ์ เที่ยวเดินถ้าเสร็จก็เดินต่อไปอีก 200 เมตร เป็นจุดชมวิวผาหงษ์ ลักษณะเป็นภาสูงมีชะง่อนหินค่อนข้างคม รอบ ๆ เป็นป่าไผ่ร่มรื่น จุดชมวิวนี้ทำให้เรามองเห็นผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์และยังสามารถชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงามมากทีเดียว
ค่ำแล้วติดต่อที่พักที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ซึ่งสถานที่แห่งนี้ได้จัดเตรียมที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวให้บริการหลายหลัง แบ่งเป็น ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว โซนที่ทำการอุทธยาน นอกจากนี้ยังมีค่ายเยาวชนอีก 2 หลังแยกชาย-หญิง พร้อมห้องน้ำแยก รวมถึงลานกลางเต็นท์ให้เลือกนอนแรมอีก 3 จุด คนที่ไม่ได้เตรียมเต็นท์มาด้วยก็สามารถติดต่อเช่าเต็นท์ได้ที่อุทธยานได้ แต่ถ้าเป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยวก็ควรจะจองห้องพักหรือเตรียมเต็นท์มาด้วยตนเองก็จะสะดวกที่สุดครับ
คืนนี้ขอนอนก่อนพรุ่งนี้ไปท่องเที่ยวกันต่อที่ไหนดีอย่าลืมติดตามอ่านตอนต่อไปครับ
ติดต่อสถานที่ท่องเที่ยวอุทธยานแห่งชาติน้ำหนาว โทรศัพท์ 0-5681-0724 หรือ 08-1962-6236
2 ความคิดเห็น:
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆมีประโยชน์ที่ทำให้เพื่อนๆได้เข้ามาอ่านครับหวังว่าจะได้นำไปใช้ประโยชน์อย่างแท้จริง
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆที่มีไว้ศึกษาการท่องเที่ยวของประเทศไทย
ประเทศไทยยังไมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาบ
แสดงความคิดเห็น